การที่ตัวแทนของบริษัทประกันหลอกลวงให้ผู้เสียหายทำสัญญาประกันชีวิต โดยหลอกลวงว่า “ การทำสัญญาประกันชีวิตมีลักษณะเหมือนเหมือนกับการฝากเงินกับธนาคารสามารถถอนเงินออกมาได้ แต่มีสิทธิคุ้มครองโดยการประกันชีวิต ”
ดังนี้ หากผู้เสียหายหลงเชื่อเข้าทำสัญญาประกันชีวิตและได้จ่ายเงินค่าเบี้ยประกันไปแล้ว สัญญาดังกล่าวย่อมตกเป็นโมฆะ ไม่มีผลผูกพันตามกฎหมาย บริษัทประกันภัยซึ่งได้รับเงินค่าเบี้ยประกันภัยไปแล้ว ต้องคืนเงินที่ได้รับไว้ให้แก่ผู้เสียหาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 534/2599
จำเลยที่ 1 ฉ้อฉลโจทก์โดยหลอกลวงว่าเป็นการทำกรมธรรม์ที่มีลักษณะที่เหมือนกับการฝากเงินกับธนาคารสามารถที่จะถอนเงินได้แต่มีสิทธิพิเศษคุ้มครองโดยการประกันชีวิตและให้ ส. ลงชื่อในคำขอเอาประกันชีวิตแล้ว จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นตัวแทนนำไปยื่นต่อจำเลยที่ 2 เพื่อให้โจทก์เข้าทำสัญญาประกันชีวิตกับจำเลยที่ 2 การฉ้อฉลดังกล่าวเป็นเหตุให้โจทก์ตกลงทำสัญญาประกันชีวิตกับจำเลยที่ 2 โดยสำคัญผิด ในเนื้อหาหรือลักษณะของนิติกรรมอันเป็นสาระสำคัญแห่งนิติกรรม สัญญาประกันชีวิตย่อมตกเป็นโมฆะ ตาม ป.พ.พ. มาตรา 156 วรรคหนึ่ง และวรรค 2 จำเลยที่ 2 ซึ่งได้รับเงินค่าเบี้ยประกันภัยไปจากโจทก์จึงต้องคืนเงินที่ได้รับไว้ให้แก่โจทก์อันเนื่องมาจากเป็นลาภมิควรได้ ตาม ป.พ.พ. มาตรา 172 วรรคสอง ประกอบมาตรา 412